โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นผู้บุกเบิกในด้านการปลูกถ่ายอวัยวะของประเทศไทยมาตั้งแต่อดีต ดังนี้
- ปลูกถ่ายไตสำเร็จเป็นที่แรกของประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2515
- ปลูกถ่ายตับสำเร็จเป็นที่แรกของประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2530
- ปลูกถ่ายหัวใจสำเร็จเป็นที่แรกของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี พ.ศ. 2530
- เป็นแกนนำสำคัญในการประชุมเกณฑ์การวินิจฉัยภาวะสมองตายเมื่อปี พ.ศ. 2532 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการรับบริจาคอวัยวะจากผู้ป่วยสมองตาย ทำให้การปลูกถ่ายอวัยวะในประเทศไทยพัฒนาขึ้นอย่างมากและส่งผลให้ผู้รับอวัยวะมีโอกาสอยู่รอดด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- ริเริ่มกิจกรรมวันรำลึกถึงผู้บริจาคอวัยวะต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เพื่อให้ญาติผู้บริจาคอวัยวะ ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะและบุคลากรทางการแพทย์ได้ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้บริจาคอวัยวะ
- ปลูกถ่ายไตข้ามหมู่เลือดสำเร็จเป็นรายแรกของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2551
ต่อมาในปี พ.ศ. 2556 มีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น คณะผู้บริหารโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้เล็งเห็นความสำคัญ จึงจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อดำเนินงานด้านการปลูกถ่ายอวัยวะโดยเฉพาะ
ภายหลังการก่อตั้งศูนย์ยังมีผลงานอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
- ปลูกถ่ายหัวใจครบ 100 ราย เมื่อปี พ.ศ. 2558
- ปลูกถ่ายตับและไตในผู้ป่วยมะเร็งตับและไตวายเรื้อรังได้สำเร็จเป็นรายแรกของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อปี พ.ศ. 2559
- ปลูกถ่ายตับในเด็กที่มีอายุมากกว่า 1 ปี จากผู้บริจาคมีชีวิตข้ามหมู่เลือดเป็นรายแรกของประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2560
- ปลูกถ่ายตับในเด็กที่มีน้ำหนักน้อยที่สุด (5.8 กิโลกรัม) จากผู้บริจาคมีชีวิตได้สำเร็จเป็นรายแรกของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
เมื่อปี พ.ศ. 2561
อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มขึ้นด้วย เช่น ริเริ่มการประชุมวิชาการเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การผ่าตัดรับบริจาคอวัยวะ” ในปี พ.ศ. 2560 จากนั้นก็จัดประจำทุกปี เพื่อให้ความรู้และเสริมสร้างทักษะการผ่าตัดรับอวัยวะบริจาคให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตในผู้รับอวัยวะมากขึ้น ทั้งนี้มีทีมศัลยแพทย์และพยาบาลจากทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
พันธกิจ
- ให้บริการการรับบริจาคอวัยวะและการปลูกถ่ายอวัยวะต่างๆโดยครอบคลุมงานการรักษาพยาบาลตั้งแต่ก่อนผ่าตัด ทำผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ และการดูแลหลังการผ่าตัด การฟื้นฟูสมรรถภาพ ป้องกันโรคแทรกซ้อน และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยแบบครบวงจร โดยความร่วมมือจากสหสาขาวิชาชีพ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน และให้ความสำคัญกับผู้บริจาคอวัยวะ โดยเฉพาะความปลอดภัยของผู้บริจาคที่มีชีวิต
- เป็นแหล่งการเรียนรู้ ฝึกอบรม การเรียนการสอนทั้งระดับบัณฑิตศึกษา และระดับหลังปริญญา
- วิจัย พัฒนา และสิ่งประดิษฐ์ เป็นที่ยอมรับระดับชาติและนานาชาติพัฒนา นวัตกรรม หรือ เทคโนโลยี เพื่อยกระดับคุณภาพการรักษาพยาบาลและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
เจตจำนง
พัฒนาการปลูกถ่ายอวัยวะให้มีความเป็นเลิศทางวิชาการ และการบริการรักษาพยาบาลเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียน มีธรรมาภิบาลและบุคลากรมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ภาระหน้าที่
- ให้บริการการรับบริจาคอวัยวะและการปลูกถ่ายอวัยวะต่าง ๆ ทั้งในด้านรักษาพยาบาลฟื้นฟูสมรรถภาพ ป้องกันโรคแทรกซ้อนและ
ส่งเสริมสุขภาพที่มีคุณภาพระดับสากล - เป็นแหล่งการเรียนรู้ สร้างนวัตกรรม ฝึกอบรม ค้นคว้าวิจัย และบริการวิชาการจนเป็นที่ยอมรับระดับสากล
- พัฒนาระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างธรรมาภิบาลและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของบุคลากร
ภารกิจหน่วยงานที่สนับสนุน
- รับแจ้งผู้ป่วยที่มีภาวะสมองตายในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และจากศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย
- ประสานงานเกี่ยวกับการรับบริจาคอวัยวะ และการปลูกถ่ายอวัยวะทั้งในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และภายนอกโรงพยาบาล
- ออกผ่าตัดรับบริจาคอวัยวะทั้งในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ ภายนอกโรงพยาบาล
- ให้คำปรึกษาผู้ป่วยที่มาเพื่อรับการปลูกถ่ายอวัยวะและหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ
- ประเมินผู้ป่วย (และผู้บริจาคอวัยวะที่มีชีวิต)เพื่อเข้าสู่กระบวนการปลูกถ่ายอวัยวะตามเกณฑ์การประเมินที่กำหนด
- ลงทะเบียนผู้ป่วยเพื่อเป็นผู้รอรับบริจาคอวัยวะกับทางศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย
- ลงทะเบียนสิทธิโครงการปลูกถ่ายอวัยวะให้แก่ผู้ป่วยก่อนปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น สิทธิบัตรทอง , สิทธิประกันสังคม เปิดสิทธิ และ ตรวจสอบสิทธิโครงการปลูกถ่ายอวัยวะ เมื่อผู้ป่วยมารับการตรวจรักษา ทั้งก่อนปลูกถ่ายอวัยวะและหลังปลูกถ่ายอวัยวะ
- ผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะให้กับผู้ป่วยที่รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะ
- ให้การรักษาดูแล และติดตามผู้ป่วยก่อน-หลังปลูกถ่ายอวัยวะ ตามมาตรฐาน และ เป้าหมายที่กำหนด
ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ ประกอบด้วยคลินิกเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับการปลูกถ่ายอวัยวะ ดังนี้
- คลินิกศัลยกรรมตับ ตับอ่อน และการปลูกถ่ายอวัยวะในช่องท้อง
- คลินิกปลูกถ่ายตับในเด็ก
- คลินิกปลูกถ่ายไต
- คลินิกปลูกถ่ายหัวใจและปอด
การให้บริการของศูนย์
- ให้การดูแลรักษาสุขภาพพร้อมกับให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ป่วยก่อนและหลังปลูกถ่ายอวัยวะแบบองค์รวม มากไปด้วยทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ได้แก่ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักกายภาพบำบัด นักสังคมสงเคราะห์ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ ทำให้ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์แห่งนี้สามารถปลูกถ่ายอวัยวะให้กับผู้ป่วยได้เป็นจำนวนมากขึ้น มีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มการศึกษาวิจัยพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้ป่วย
- มีความโดดเด่นในด้านการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะอย่างครบวงจรด้วยทีมแพทย์ที่มีความสามารถเทียบเท่าระดับสากลในการปลูกถ่าย “ไต ตับ หัวใจและปอด”
- มีพยาบาลที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการปลูกถ่ายอวัยวะประสานงานกับผู้ป่วยและแพทย์โดยตรงอย่างฉับไว ทันท่วงที ตลอด
24 ชั่วโมง ทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแล รักษาที่มีประสิทธิภาพ ทันเหตุการณ์
นอกจากนี้ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ ยังมีกิจกรรมในช่วงปีที่ผ่านมาอีกด้วย ได้แก่
1. โครงการปลูกถ่ายไต 100 รายเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10
เป็นโครงการเพิ่มศักยภาพการผ่าตัดปลูกถ่ายไตจาก “ผู้บริจาคที่มีชีวิต” โดยตั้งเป้าการผ่าตัดทั้งสิ้น 100 รายซึ่งเป็นการผ่าตัดกรณี
หมู่เลือดเข้ากันไม่ได้
2. กิจกรรมรับบริจาคอวัยวะ ในงาน “ORGAN CAN SHARE” ครั้งที่ 2 ณ ศูนย์การค้า MBK เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2562
เป็นการเสวนาให้ความรู้และความเข้าใจในหัวข้อ “ปาฏิหาริย์แห่งการให้” จากผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายอวัยวะโดย รศ.นพ.บุญชู ศิริจินดากุล หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ พร้อมคนบันเทิงมากมาย
3. การประชุมวิชาการเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การผ่าตัดรับบริจาคอวัยวะ” (Lecture & Hands-on workshop organ retrieval) เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2562
วัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ความรู้และเสริมสร้างทักษะการผ่าตัดรับอวัยวะบริจาคให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตในผู้รับอวัยวะมากขึ้น ทั้งนี้มีทีมศัลยแพทย์และพยาบาลจากทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
4. “วันรำลึกถึงผู้บริจาคอวัยวะ” (Donor remembrance day) เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2562
เพื่อให้ญาติผู้บริจาคอวัยวะ ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ และบุคลากรทางการแพทย์ ได้ร่วมกันทำบุญรำลึกถึงผู้บริจาคอวัยวะ