รศ.นพ.กมล ภานุมาตรัศมี
รศ.นพ.วิภูษิต แต้สมบัติ
อ.นพ.เผด็จ ธนังธีรพงษ์์
อ.นพ.ฐิติเทพ ลิ้มวรพิทักษ์
ฝ่ายศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลจุุฬาลงกรณ์์ สภากาชาดไทย
“แสงแห่งความหวัง”
ส่วนช่วยผู้ป่วยที่ขาดการเข้าถึงโอกาสตรงนี้ได้เป็นอย่างดี
เมื่อไรถึงมีความจำเป็นต้องผ่าตัดด้วยหุ่่นยนต์ช่วยผ่าตัด? เชื่่อว่่าหลายคนอาจเคยตั้งข้อสงสัยต่่อเทคโนโลยีทางการแพทย์ชั้นสููงอย่างหุ่นยนต์์ช่วยผ่าตัด แต่คงไม่มีใครสามารถตอบคำถามนี้ได้ดีเท่า รศ.นพ.กมล ภานุุมาตรัศมี ฝ่ายศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬุาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ผู้เชี่่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดโรคเกี่ยวกับระบบปัสสาวะมานานกว่่าสิบปี
การผ่าตัดด้วยหุ่่นยนต์ช่วยผ่าตัดส่วนใหญ่ เป็นการผ่าตัดโรคในช่องท้องกับช่องอกที่มีความยากและซับซ้อน ตัวอย่่างโรคในระบบทางเดินปัสสาวะ ได้แก่มะเร็งต่่อมลููกหมาก ที่ไม่ใช่แค่่การตัดชิ้นเนื้อออกเพื่อรักษามะเร็งอย่างเดียว แต่ต้องเย็บเชื่อมต่ออวัยวะภายในต่่าง ๆ กลับเข้าหากันเพื่อคงการทำงานให้กลับมาทำงานได้อย่างสมบููรณ์ เช่่น การกลั้นปัสสาวะ และสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ ซึ่งการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดมีส่วนช่วยแพทย์ได้มากทั้งการตัดเนื้องอกออกและการเย็บ เพราะจะมีบางมุุมที่่ต่่อให้้เป็นการผ่่าตัดแบบส่่องกล้องก็ยังตัดและเย็บได้ไม่ดีเท่าหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดที่ทลายข้อจำกัดตรงนี้ลงได้ทั้งหมด
“การใช้หุ่นยนต์์ช่วยผ่าตัดเป็นการนำข้อดีของการผ่าตัดแบบเปิดและการผ่าตัดแบบส่่องกล้องมารวมเข้าด้วยกัน กล่่าวคือ การใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเป็นการผ่าตัดแบบเจาะรูแผลเล็กเหมือนการผ่าตัดแบบส่องกล้อง แต่การผ่าตัดแบบส่องกล้องมีข้อจำกัดเรื่องการเคลื่อนไหวของอุุปกรณ์ที่แม้จะหมุนได้ดีในระดัับหนึ่ง แต่่ก็ยังไม่ดีเท่าแขนกลของหุ่นยนต์ที่มีองศาการหมุนเทียบเท่าหรือดีกว่าข้อมือมนุุษย์ และเมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์สามารถเข้าไปผ่าตัดในจุดที่เข้าถึงยากได้ดีกว่าและให้ภาพที่ชัดเจนกว่าตาของมนุุษย์”
เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคเนื้องอกในช่องอกและช่องท้องจำนวนมากในฝ่ายศัลยศาสตร์ ซึ่งครอบคลุมทั้งหน่วยศัลยศาสตร์ทั่วไป ศัลยศาสตร์ทรวงอก ศัลยศาสตร์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และศัลยศาสตร์ระบบทางเดินปัสสาวะ ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดผู้ป่วยส่วนมากจะเข้ารับการผ่าตัดด้วยวิธีแบบเปิดและการผ่าตัดแบบส่องกล้อง เพราะไม่สามารถเข้าถึงการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดได้เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง จึงเป็นที่มาของโครงการผ่าตัดโรคเนื้องอกในช่องอกและช่องท้องด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดรักษาผู้ป่วยจำนวน 72 ราย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงการรักษาด้วยหุ่นยนต์ผ่าตัดในการรักษาโรคเนื้องอกในช่องอกและช่องท้องที่มีความจำเป็นต้องผ่าตัด ซึ่งให้ผลการรักษาที่ดีมาก เสียเลือดน้อย และมีภาวะแทรกซ้อนต่ำ ผู้ป่วยจึงฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้เร็วขึ้น
“นอกเหนือจากการช่วยเหลือผู้ป่วย 72 ราย โครงการแสงแห่งความหวังยังสร้างการตระหนักรู้ถึงการมีโอกาสเข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยี ทางการแพทย์ขั้นสูงโดยทั่วกัน”
ในโครงการนี้ผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดของแผนกศัลยศาสตร์ระบบทางเดินปัสสาวะมีจำนวน 42 ราย ผู้ ป่วยทางศัลยศาสตร์ลำไส้ใหญ่ และทวารหนักมีจำนวน 15 ราย อ.นพ.ฐิติเทพ ลิ้มวรพิทักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านโรคทางศัลยศาสตร์ลำไส้ใหญ่ และทวารหนัก แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดไว้ว่า “ลำไส้ใหญ่ และทวารหนักมีส่วนที่ผ่าตัดยากอยู่ เช่น ลำไส้ส่วนปลายหรือลำไส้ตรงตำแหน่งที่ลึกเข้าไปมาก ทำให้ยากในการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นการผ่่าตัดแบบเปิดช่องท้องที่ให้ผลการรักษาที่ไม่่ดีหรืือแม้แต่การผ่าตัดแบบส่องกล้องซึ่งก็ยังคงมีจุุดที่ก้าวผ่านได้ยากอยู่ โดยเฉพาะศัลยแพทย์รุ่นใหม่ ที่เพิ่งเริ่มงานจะมีปัญหาตรงจุุดนี้มาก การใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดจะช่่วยให้เข้าถึงได้ง่าย และแม่นยำมากขึ้น ทำให้ในที่สุดแล้วได้ผลการรักษาที่ดีผู้ป่วยเองก็ฟื้นตัวเร็วทั้งยังช่วยให้ศัลยแพทย์เก่งเร็วขึ้น และสามารถนำทักษะในการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดไปปรับใช้ในการผ่าตัดรููปแบบอื่นต่อไป”
สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดและเนื้องอกในช่่องอกที่ได้รับการผ่าตัดในโครงการแสงแห่งความหวังมีจำนวนทั้งสิ้น 12 ราย อ.นพ.เผด็จ ธนังธีรพงษ์ หน่วยศัลยศาสตร์ทรวงอก กล่าวถึงประสิทธิภาพของการใช้หุ่่นยนต์์ในการช่วยผ่าตัดไว้ว่า “แม้ในปัจจุบันการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องจะให้ผลดี แต่ในบางมุมบางตำแหน่ง เช่น บริเวณยอดอก การผ่าตัดโดยการส่องกล้องเพื่อตัดต่อมน้ำเหลืองออกมาให้ได้มากที่สุดอาจทำได้ไม่ดีเท่าหุ่นยนต์ เพราะติดซี่โครงในช่องอกทำให้เข้าไปตรงที่ลึก ๆ ได้ลำบาก แต่แขนของหุ่นยนต์สามารถเคลื่อนไหวได้คล่องกว่าข้อมือของมนุษย์ทำให้ซอกซอนเข้าไปในจุดที่อยู่ลึกได้ดีกว่่า จึงมีความสามารถในการตัดต่อมน้ำเหลืองหรือก้อนเนื้อที่ซับซ้อนได้อย่่างแม่่นยำ”
รศ.นพ.วิภูษิต แต้สมบัติ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านโรคตับ ตับอ่่อนและทางเดินน้ำดี กล่าวเพิ่มเติมหลังจากใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดผู้ป่วยในโครงการแสงแห่่งความหวังทั้งสิ้น 3 รายว่่า “เช่นเดียวกัน การผ่าตัดเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งตับอ่อนจัดว่ายุ่งยากที่สุดสำหรับการผ่าตัดในช่องท้อง เพราะหลังจากผ่าตัดนำชิ้นเนื้อออกไปแล้ว ต้องมีการตัดต่อหลายระบบเข้าด้วยกัน ทั้งท่่อน้ำดี ทางเดินอาหาร และท่อของตับอ่อน การนำหุ่นยนต์มาใช้ในการผ่าตัดจึงช่วยได้มาก
“ผมฝึกฝนการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดมานาน 7-8 ปี แล้วได้มีโอกาสใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดผู้ป่วยโรคมะเร็งตับอ่อน 3 รายในปีนี้ ส่วนหนึ่งก็ด้วยเหตุผลด้านค่าใช้จ่าย โครงการแสงแห่งความหวังจึงเป็นจุุดเริ่มต้นที่ดีในการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งตับอ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
การเข้าถึงช่่วยเพิ่มโอกาสทางการรักษา
“ด้วยความที่หน่วยศัลยศาสตร์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลจุุฬาลงกรณ์ ใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดมานานกว่าสิบปีแล้ว และเพิ่งเปลี่ยนมาใช้หุ่นยนต์รุ่นใหม่ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก และเอื้อต่อการผ่าตัดในอีกหลาย ๆ ระบบ เราจึงได้เชิญอีก 3 ฝ่่ายในหน่วยศัลยศาสตร์มาร่วมโครงการฯ ด้วยกัน” รศ.นพ.กมล กล่าวถึงการเพิ่มโอกาสในการรักษาให้ผู้ป่วยในแผนกศัลยศาสตร์์ที่มีความเจ็บป่วยด้านอื่น ๆ ให้สามารถเข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงในโครงการแสงแห่่งความหวัง
“ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดคือ ค่าใช้จ่ายสูง อย่างไรก็ตามในอนาคตอันใกล้ สิทธิการรักษาพื้นฐานจะครอบคลุุมการผ่าตัดบางประเภท แต่อาจจะไม่ทั้งหมด โครงการแสงแห่งความหวัง จึงมีส่วนช่วยผู้ป่วยที่ขาดการเข้าถึงโอกาสตรงนี้ได้เป็นอย่างดี”