โรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี เป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับ 2 มักพบในเพศชาย เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่าผู้หญิงในระยะเริ่มแรก มักไม่มีการแสดงอาการของโรค
ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งตับ
- ภาวะตับแข็งจากสาเหตุต่าง ๆ
- ไวรัสตับอักเสบบีและซี
- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ไขมันพอกตับ
- สารอะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) ที่อยู่ในถั่วลิสงที่อับชื้น, พริกแห้ง, กระเทียม และหัวหอม เป็นต้น
ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งท่อน้ำดีในเนื้อตับ
- ท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรังจากสาเหตุต่าง ๆ โดยเฉพาะการติดเชื้อพยาธิใบไม้ในตับซึ่งมักพบในผู้ป่วยที่บริโภคปลาน้ำจืดดิบ เช่น ก้อยปลาดิบ
- โรคตับและท่อน้ำดีอื่น ๆ เช่น ซีสต์ของทางเดินน้ำดี (choledochal cyst), ตับแข็ง, นิ่วท่อน้ำดี เป็นต้น
แนวทางการป้องกัน
- ลดหรือหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงการรับประทานปลาน้ำจืดดิบ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxin)
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารไนโตรซามีน (Nitrosamine)
- ควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีตั้งแต่แรกเกิด
- ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็งตับ ได้แก่ ผู้ป่วยตับแข็ง และผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาตรวจคัดกรองมะเร็งตับ ได้แก่ การอัลตราซาวด์ตับ ร่วมกับการตรวจค่ามะเร็งในเลือด
หากสงสัยว่ามีความเสี่ยงต่อมะเร็งตับและท่อน้ำดีควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย จะช่วยให้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที และลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดีได้
เรื่อง : ผศ.นพ. สืบพงศ์ ธนสารวิมล
ฝ่ายอายุรศาสตร์
ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566