รศ.(พิเศษ) พญ.อุุษณีย์ เหรียญประยููร
หัวหน้าโครงการตาดี ฝ่ายจักษุวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
“สิ่งสำคัญที่สุุดคือ
การให้โอกาสผู้ป่วยในการทำให้เขากลับมาใช้ชีวิต
ได้อย่างใกล้เคียงปกติมากที่สุด”
ดวงตาเป็นอวัยวะที่มีขนาดเล็ก ดังนั้นการพัฒนาเทคโนโลยีภาพถ่ายหรือกล้องที่มีกำลังขยายสูงจึงมีส่วนช่วยจักษุแพทย์ได้มากในการทำความเข้าใจอวัยวะที่มีขนาดเล็กนิดเดียวนี้ได้ละเอียดยิ่งขึ้น รศ. (พิเศษ) พญ.อุุษณีย์ เหรียญประยููร หัวหน้าโครงการตาดี ฝ่ายจักษุุวิทยา โรงพยาบาลจุุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เกริ่นถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคกระจกตาพิการ ซึ่งเป็นโรคที่่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย
“ในทางการแพทย์ ผู้ป่วยโรคกระจกตาพิการ หมายถึง ผู้ป่วยที่มีระดับการมองเห็นแย่ลงจากการที่กระจกตาเป็นฝ้า สภาวะดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่วัยเด็กวัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ เนื่องจากสาเหตุของโรคกระจกตาพิการสามารถเกิดขึ้นได้จาก 5 ปัจจัย ได้แก่ เป็นโรคกระจกตาพิการตั้งแต่กำเนิด เป็นโรคกระจกตาเสื่อมตามพันธุกรรม
เป็นผลต่อเนื่องจากการเกิดอุุบัติเหตุต่่าง ๆ ที่กระทบกับดวงตา เช่น สารเคมีเข้าตา หรือประสบอุุบัติเหตุ ทำให้มีแผลที่ตา เป็นความต่อเนื่องจากการติดเชื้อที่กระจกตา เช่น ใส่คอนแท็กต์เลนส์ที่ไม่สะอาด ทำให้เกิดการติดเชื้อ เมื่อแผลหายจึงกลายเป็นแผลเป็นหรือเป็นผลต่อเนื่องจากการทำผ่าตัดไม่ว่าจะเป็นที่กระจกตาโดยตรงหรือผ่าตัดที่ส่วนอื่นแล้วส่งผลกระทบต่อกระจกตา”
“ด้วยความที่จำนวนผู้ป่วยโรคกระจกตาพิการมีจำนวนมากกว่่าจำนวนดวงตาที่ศูนย์ดวงตาฯ สามารถจัดหาได้ทำให้ผู้ป่วยต้องรอคอยนานเป็นปี บางคนอาจหลายปี และในระหว่างที่รอคอย การพยากรณ์โรคก็เปลี่ยนไป อีกทั้งตลอดระยะเวลาแห่งการรอคอยนั้น ชีวิตของผู้ป่วยรวมถึงคนในครอบครัวก็ยังต้องเผชิญกับความทุุกข์ทรมานจากโรคที่เกิดขึ้นตามไปด้วย”
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ฝ่ายจักษุวิทยา โรงพยาบาลจุุฬาลงกรณ์ จึงริเริ่ม “โครงการตาดี” ขึ้น เพื่อแก้ปัญหาที่่ผู้ป่วยโรคกระจกตาพิกิารต้องรอคอยกระจกตาบริจาคเป็นระยะเวลานาน และเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสููง เพื่อช่วยให้กลุ่มผู้ป่วยโรคกระจกตาพิกิารที่่เข้าถึงการรักษาได้ยากและติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย มีโอกาสเข้าถึงการรักษาโรคกระจกตาพิการได้มากขึ้น
การเข้าถึงช่วยเพิ่มโอกาสทางการรักษา
สำหรับเทคโนโลยีีขั้นสูงที่นำมาใช้ในโครงการตาดี ได้แก่ การผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา การรักษาโรคกระจกตาพิการด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาเทียม และการผ่าตัดใส่วงแหวนเพื่อปรับรูปร่างกระจกตา ซึ่ง รศ.(พิเศษ) พญ.อุษณีย์ อธิบายถึงรายละเอียดของเทคโนโลยีต่าง ๆ ดังนี้
“เทคโนโลยีขั้นสูงในการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาเป็นการผ่าตัดแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับบุคคล เช่นผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเนื้อเยื่อชั้นไหน เราก็เปลี่ยนจำเพาะแค่ชั้นนั้น ส่วนการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาเทียมเป็นการสั่งกระจกตาเทียมจากต่างประเทศ เพื่อนำมาใช้ในการผ่าตัดปลูกถ่ายกับเนื้อเยื่อจริง ๆ เพื่อให้การมองเห็นดีขึ้น และการผ่าตัดใส่วงแหวนเพื่อปรับรูปร่างกระจกตา เป็นวิธีรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคกระจกตาโก่งด้วยการใส่วงแหวน วิธีนี้ทำให้ผู้ป่วยอาจไม่ต้องเปลี่ยนกระจกตาเลยก็ได้”้
ปัจจุบัน “โครงการตาดี” ได้รักษาผู้ป่วยโรคกระจกตาพิการจำนวน 36 รายเป็นที่เรียบร้อย สมตามเป้าประสงค์ในการพัฒนาคุุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้กลับมามองเห็นและใช้ชีวิต ได้อย่างเป็นปกติที่สุด
