ฝ่ายสวัสดิการสังคม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เดิมชื่อ หน่วยสังคมสงเคราะห์ สังกัดแผนกบรรเทาทุกข์และอนามัย สภากาชาดไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2508 โดยเริ่มแรกมีนักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติงานทั้งสิ้น จำนวน 4 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2524 หน่วยสังคมสงเคราะห์ได้รับการยกฐานะเป็น แผนกสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ภายใต้สายการบังคับบัญชาตรงต่อผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และในปีพ.ศ. 2540 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ถัดมาในปี พ.ศ. 2547 มีการเปลี่ยนชื่อหน่วยงานอีกครั้งเป็น ฝ่ายสวัสดิการสังคม จวบจนปัจจุบันมีบุคลากรทั้งสิ้น 41 คน โดยแบ่งเป็น
- นักสังคมสงเคราะห์ที่ได้รับใบอนุญาต “นักสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต” จากสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ พ.ศ. 2556 จำนวน 36 คน
- บุคลากรอื่น ๆ จำนวน 5 คน
ผู้บังคับบัญชา ฝ่ายสวัสดิการสังคม จากอดีตถึงปัจจุบัน
1. นางเลื่องบุญ ลาวัลยะวัฒน์
พ.ศ. 2508 – พ.ศ. 2521
2. นางรัตนา มุขธระโกษา
พ.ศ. 2522 – กันยายน พ.ศ. 2546
3. นางสาวพจนา วาณิชเสนี
ตุลาคม พ.ศ. 2546 – กันยายน พ.ศ. 2548
4. นางเรณุวรรณ โพธิ์สุข
ตุลาคม พ.ศ. 2548 – กันยายน พ.ศ. 2552
5. นางชลิดา อุทัยเฉลิม
ตุลาคม พ.ศ. 2552 – กันยายน พ.ศ. 2563
6. นางสาววีรมลล์ จันทรดี
ตุลาคม พ.ศ. 2563 – ปัจจุบัน
พันธกิจ
ฝ่ายสวัสดิการสังคม มุ่งเน้นการเป็นต้นแบบงานสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ที่มีคุณภาพพร้อมด้วยคุณธรรม มีมาตรฐานในระดับนานาชาติ
ภาระหน้าที่
- ให้บริการทางสังคม เศรษฐกิจ จิตใจ และจิตวิญญาณกับผู้ใช้บริการและครอบครัว
- ส่งเสริมและพัฒนางานวิชาการสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคมเพื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
- บริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและมีธรรมาภิบาล
ภารกิจที่หน่วยงานสนับสนุน
กุลยุทธเชิงพัฒนา : SMART social work
มีแนวคิดมาจากการที่จะพัฒนาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ให้มีความเจริญและสามารถที่จะดูแลกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเต็มที่ด้วย SMART social work
S Skill ทักษะเด่น (ความสามารถในการทำงาน)
M Morality เน้นคุณธรรม (ดูแลกลุ่มเปราะบาง)
A Adaptability ไม่ย่ำที่เดิม (เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ)
R Research เพิ่มเติมวิจัย (การจัดเก็บและต่อยอดข้อมูล)
T Teamwork ใส่ใจทีมเวิร์ค (การทำงานร่วมกันและขยายเครือข่าย)
จำนวนบุคลากร : มีบุคลากรทั้งสิ้น 41 คน โดยแบ่งเป็น นักสังคมสงเคราะห์ที่ได้รับใบอนุญาต “นักสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต” จากสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ พ.ศ. 2556 จำนวน 36 คน และบุคลากรสนับสนุน จำนวน 5 คน
ภารกิจหน่วยงาน แบ่งเป็น 3 ด้าน คือ
1. ด้านบริการ โดยให้บริการรายบุคคลและรายกลุ่ม ในการป้องกัน แก้ไข บำบัด ฟื้นฟู เสริมสร้างพลังใจ รวมถึงการบริหารจัดสรรทรัพยากร เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาให้สามารถกลับมามีศักยภาพได้อีกครั้ง ตลอดจน ส่งเสริมให้เกิดกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เกิดเครือข่ายในการดูแลกันและกัน
2. ด้านวิชาการ ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างงานวิจัยและนวัตกรรมทางสังคมสงเคราะห์ เข้าร่วมนำเสนอผลงานวิชาการ รวมถึงเปิดพื้นที่ให้นักศึกษาได้ร่วมฝึกประสบการณ์การทำงานร่วมกับนักสังคมสงเคราะห์วิชาชีพ เพื่อเตรียมพร้อมสู่การทำงานในอนาคต
3. ด้านบริหาร การบริหารจัดการองค์กรทำในรูปแบบคณะกรรมการฝ่ายสวัสดิการสังคม ยึดหลักธรรมาภิบาล เน้นการมีส่วนร่วม เพื่อให้บุคลากรมีความสุขในการทำงาน
บทบาทและหน้าที่ของนักสังคมสงเคราะห์
1. ด้านการปฏิบัติงานกับผู้ป่วยและครอบครัว
นักสังคมสงเคราะห์จะทำงานร่วมกับทีมรักษาพยาบาลในลักษณะสหวิชาชีพ เพื่อดูแลผู้ป่วยอย่างเข้าถึงทั้งทางด้านร่างกายจิตใจอารมณ์และสังคม ให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลที่ได้ผลดีที่สุด และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสมและมีคุณภาพในครอบครัวและสังคม ในบางกรณีนักสังคมสงเคราะห์จะเข้าไปช่วยวางแผนการดูแลร่วมกับผู้ป่วยและครอบครัวแม้เมื่อสิ้นสุดการรักษาแล้วก็ตาม โดยมีการเยี่ยมบ้านเพื่อเป็นการติดตามและประเมินผล ตลอดจนการดูแลปรับสภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัยให้เอื้อต่อสุขภาพอนามัยของผู้ป่วยเฉพาะโรค พร้อมให้ความช่วยเหลือในกรณีที่มีความจำเป็น ทำให้ผู้ป่วยได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยบทบาทในด้านต่าง ๆ ในการให้บริการผู้ป่วยและครอบครัว ได้แก่
1.1 ด้านสุขภาพกายและจิตใจ
นักสังคมสงเคราะห์จะใช้กระบวนการทางสังคมสงเคราะห์ ทั้งการสังคมสงเคราะห์เฉพาะรายและกลุ่มในการประเมินวินิจฉัยทางสังคม มีการร่วมวางแผนกับผู้ป่วยและครอบครัว ดำเนินการให้ความช่วยเหลือป้องกัน แก้ไข เฝ้าระวังความเสี่ยง และพัฒนาฟื้นฟู โดยการให้การปรึกษาแนะนำ สนับสนุนให้กำลังใจ เสริมพลัง ประสานงานส่งต่อ พิทักษ์สิทธิให้แก่ผู้มาใช้บริการ และปฎิบัติร่วมกันกับทีมสหวิชาชีพในการให้และรับข้อมูล และร่วมวางแผนในการดูแลผู้ป่วย เช่น
- การประเมินความพร้อมของผู้ป่วยรอรับการปลูกถ่ายอวัยวะและปลูกถ่ายไขกระดูก
- โครงการการดูแลผู้ป่วยแก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ
- โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กป่วยเรื้อรัง
- โครงการการดูแลกลุ่มผู้ป่วยพาร์กินสัน กลุ่มผู้ป่วยโรคลมชัก ผู้ป่วยพาร์กินสัน กลุ่มผู้ป่วยไตใหม่ กลุ่มผู้ป่วยไขกระดูก กลุ่มเบาหวาน เป็นต้น
1.2 ด้านสังคม
นักสังคมสงเคราะห์จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนด้านพลังใจแก่ผู้ป่วยและครอบครัว ให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในครอบครัวและสังคม รวมถึงการแสวงหาเครือข่ายทางสังคมเพื่อส่งต่อผู้ใช้บริการไปรับบริการที่เหมาะกับสภาพปัญหา ทั้งยังช่วยคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กและครอบครัว กลุ่มเปราะบางในสังคม เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น
- การริเริ่มก่อตั้งชมรมเพื่อนวันพุธ (ชมรมผู้ติดเชื้อเอชไอวี)
- ปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศในการให้บริการชุมชน เช่น การจัดงาน Stroke Day วันเทียนส่องใจ
1.3 ด้านจิตวิญญาณ
เป็นอีกมิติหนึ่งที่นักสังคมสงเคราะห์ให้ความสำคัญกับผู้ป่วยและครอบครัว ภายใต้บริบทของความเชื่อทางศาสนาที่มีความแตกต่าง คำนึงถึงความต้องการและสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจที่ผู้ป่วยและ/หรือครอบครัวต้องการ การจัดบริการเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้ถือเป็นการเติมเต็มในการให้บริการทางสุขภาพโดยคำนึงถึงผู้ป่วยเป็นสำคัญ เช่น โครงการดูแลกลุ่มผู้ป่วยระยะท้ายร่วมกับทีมสหวิชาชีพ จัดงานวันรำลึกผู้จากไป
2. ด้านการพัฒนาวิชาการและการเรียนรู้
2.1 ด้านบริการวิชาการ
ฝ่ายสวัสดิการสังคมยังให้บริการทางวิชาการสังคมสงเคราะห์ โดยเป็นสถานที่ศึกษาดูงานและฝึกอบรมที่ให้ทั้งความรู้ในการปฏิบัติงานและประสบการณ์การให้บริการสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์แก่นักศึกษาสังคมสงเคราะห์และผู้สนใจศึกษาดูงานทั้งจากภายในและภายนอกประเทศตลอดมา องค์ความรู้ที่ฝ่ายสวัสดิการสังคมได้พัฒนามานั้น ยังสามารถนำมาต่อยอดและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างหน่วยงานอื่น ๆ ภายนอกได้อีกด้วย เช่น
- โครงการความร่วมมือกับคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการพัฒนาหลักสูตรอบรมเฉพาะทางของนักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์
- การสร้างและพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมไปสู่ประชากรกลุ่มเป้าหมายในสังคม เช่น หลักสูตรในโครงการการให้การปรึกษาแบบไม่เป็นทางการ หลักสูตรความรู้เพื่อชีวิตสำหรับแรงงาน หลักสูตรสร้างเสริมสุขภาพการเฝ้าระวังโรคหัวใจและหลอดเลือด หลักสูตรนักสังคมสงเคราะห์เฉพาะทางด้านการดูแลผู้ป่วยระยะท้าย เป็นต้น
2.2 ด้านการพัฒนาบุคลากร
ฝ่ายสวัสดิการสังคมยังจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต ให้แก่บุคลากรในหน่วยงานและสังคมภายนอกอีกด้วย
- การดำเนินโครงการพัฒนาบุคลากรของฝ่ายสวัสดิการสังคมที่มีการดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 30 ปี
- การจัดกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพเชิงรุกเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคของบุคลากร
- กิจกรรมสร้างสัมพันธภาพภายในองค์กร งานปีใหม่ งานเกษียณอายุราชการ ฯลฯ
3. ด้านกิจกรรมเพื่อองค์กร
นอกจากนี้ ยังมีโครงการเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีให้แก่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยโครงการเด่นที่เป็นที่รู้จักและเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คือ “โครงการ CHULA’S DIAMOND” ซึ่งเป็นโครงการระดมทุนที่จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ที่มาเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยเริ่มจำหน่ายหนังสือบทเพลงพระราชนิพนธ์เล่มเล็กเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2556 และจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าเพื่อผู้ป่วยยากไร้เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2558 ณ วัดธาตุทองพระอารามหลวงและจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
ความภาคภูมิใจ
จากผลการปฏิบัติงานที่ทุ่มเทให้กับผู้ป่วย มูลนิธิศาสตราจารยปกรณ์ อังศุสิงห์ ได้ประกาศเกียรติคุณ นักสังคมสงเคราะห์ดีเด่นให้กับนักสังคมสงเคราะห์ประจำฝ่ายสวัสดิการสังคม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ดังนี้
- นางรัตนา มุขธระโกษา ได้รับการประกาศเกียรติคุณ ปี พ.ศ. 2530
- นางสาววีรมลล์ จันทรดี ได้รับการประกาศเกียรติคุณ ปี พ.ศ. 2549
- นายกมลเศรษฐ์ เก่งการเรือ ได้รับการประกาศเกียรติคุณ ปี พ.ศ. 2550