อาการมือชา ปลายนิ้วไม่รู้สึก หรือปวดแสบนิ้ว หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่แท้จริงแล้วอาจเป็นสัญญาณของ “โรคพังผืดทับเส้นประสาทที่ข้อมือ” หากปล่อยไว้ อาจเสี่ยงเส้นประสาทเสียหายถาวรและรักษายากขึ้น
พฤติกรรมเสี่ยงโรคพังผืดทับเส้นประสาทที่ข้อมือ
- ใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นเวลานาน
- ข้อมืออยู่ในท่างอหรือกระดกขึ้นติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ทำงานที่ต้องใช้ข้อมือซ้ำ ๆ เช่น งานบ้าน งานช่าง
อาการที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ
- อาการชาฝ่ามือ ชาปลายนิ้ว เป็นๆหายๆระหว่างวัน บางครั้งเป็นบ่อยหรือต่อเนื่องไม่หายไป
- มีอาการชาร่วมกับมืออ่อนแรง หยิบจับของหล่นบ่อย หรือติดกระดุมเสื้อลำบาก
- มีอาการชาร่วมกับกล้ามเนื้อฝ่อลีบบริเวณอุ้งมือตรงนิ้วหัวแม่มือ
- มีอาการชาร่วมกับอาการปวด อาจปวดแปล๊บ ๆ เหมือนไฟช๊อต เหมือนเข็มตำ ปวดแสบปวดร้อน หรือมีอาการต้องตื่นตอนกลางคืนด้วยอาการชาหรือปวดมือนี้
วิธีดูแลและป้องกันตัวเอง
- ปรับพฤติกรรม หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมือในท่าเดิมนาน ๆ
- จัดโต๊ะทำงานให้ถูกหลักสรีระ
- ใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น แผ่นรองเมาส์ที่มีเบาะรองข้อมือ หรือที่ดามข้อมือ
รักษาให้หายขาดได้ หากรักษาอย่างถูกวิธีและต่อเนื่อง
- รับประทานยา เช่น ยาลดการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาบำรุงประสาท หรือยาลดอาการปวดเส้นประสาท
- ฉีดยา เช่น การใช้ยาสเตียรอยด์ฉีดเพื่อลดการอักเสบที่บริเวณโพรงข้อมือ
- ผ่าตัด เมื่อวิธีอื่น ๆ รักษาไม่ได้ผล
โรคพังผืดทับเส้นประสาท ใกล้ตัวกว่าที่คิด! หากพบว่ามีอาการชามือและปลายนิ้วร่วมกับอาการอื่น ๆดังที่กล่าว แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
ข้อมูลโดย : รศ.นพ.กวี ภัทราดูลย์
ฝ่ายออร์โธปิดิกส์
ข้อมูล ณ วันที่ : 8 พฤศจิกายน 2568