Search
Close this search box.

คลินิกเวชศาสตร์การกีฬาสำหรับนักกีฬาอีลิท

เมื่อเอ่ยถึง “นักกีฬาอาชีพ” ทุกคนคงนึกถึงบุคคลที่มีสรีระร่างกายแข็งแรง จิตใจมุ่งมั่น ผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างดีจนมีทักษะเชี่ยวชาญในการเล่นกีฬาชนิดใดชนิดหนึ่งที่เหนือกว่าระดับของคนทั่วไป สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงและชื่อเสียงให้ตัวเอง แต่ขณะเดียวกันหากนักกีฬาอาชีพได้รับบาดเจ็บย่อมส่งผลกระทบตามมาอย่างมหาศาล การดูแลอาการบาดเจ็บของนักกีฬาอาชีพจึงจำเป็นต้องพึ่งพาเวชศาสตร์การกีฬา (Sport Medicine) ในการวินิจฉัย ดูแลรักษา รวมถึงการบำบัดฟื้นฟูให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติ ก่อนกลับไปลงสนามอีกครั้งด้วยความมั่นใจ

รศ.(พิเศษ) นพ.ธนะเทพ ตั่นเผ่าพงษ์ หัวหน้าคลินิกเวชศาสตร์การกีฬาสำหรับนักกีฬาอีลิท โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า คลินิกเวชศาสตร์การกีฬาสำหรับนักกีฬาอีลิท (Sports Medicine Clinic for Elite Sportsmen) โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2564 มีจุดมุ่งหมายในการให้บริการรักษาพยาบาลฟื้นฟูสมรรถภาพ ป้องกันโรค และสร้างเสริมสุขภาพที่เป็นเลิศแก่กลุ่มนักกีฬาอาชีพโดยเฉพาะ

“คลินิกนี้เกิดจากความร่วมมือกันของแพทย์ด้านออร์โธปิดิกส์กับแพทย์ด้านเวชศาสตร์การฟื้นฟู ออกแบบมาเพื่อให้การดูแลนักกีฬาระดับอีลิทหรือนักกีฬาอาชีพโดยเฉพาะ ตั้งแต่ก่อนผ่าตัด ระหว่างผ่าตัด จนถึงหลังผ่าตัด ซึ่งนักกีฬกลุ่มนี้มีกรอบเวลาในการรักษาค่อนข้างชัดเจน เร่งด่วน และต้องใช้ความละเอียดกว่าคนทั่วไป เป้าหมายของเราคือช่วยเหลือนักกีฬาอาชีพที่ได้รับบาดเจ็บให้สามารถกลับไปเล่นกีฬาอีกครั้งได้อย่างราบรื่น”

สำหรับนักกีฬาอาชีพที่มาเข้ารับการรักษาที่นี่มีหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย นักฟุตบอลสโมสรระดับอาชีพ นักยิงปืน นักวิ่งมาราธอน นักลีลาศ นักบัลเลต์ ฯลฯ

“ส่วนใหญ่นักตะกร้อจะมาด้วยอาการบาดเจ็บที่เข่าหรือข้อเท้า นักฟุตบอลบางคนก็มารักษาอาการเอ็นไขว้หน้าหรือ หมอนรองเข่าฉีก นักกีฬายิงปืนมักมีอาการเจ็บที่ข้อศอก กล้ามเนื้อไหล่และหลัง เพราะต้องเกร็งแขนขณะฝึกซ้อมเป็นเวลานาน ส่วนนักวิ่ง กลุ่มที่เป็นนักล่าเหรียญรางวัล บางครั้งวิ่งหนัก ฝึกซ้อมหักโหมเกินไปจนทำให้บาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อต้นขา น่อง ทำให้การวิ่งแย่ลง ไม่สามารถพิชิตเป้าหมายที่หวังไว้ได้”

จุดเด่นของคลินิกเวชศาสตร์การกีฬาสำหรับนักกีฬาอีลิทอยู่ตรงการรวมตัวกันของคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากสาขาต่าง ๆ พยาบาล ทีมสหสาขาวิชาชีพ ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูนักกายภาพบำบัด นักจิตวิทยา นักกายอุปกรณ์ ต่างทุ่ม เทดูแลนักกีฬาอาชีพที่ได้รับบาดเจ็บอย่างสุุดความสามารถ

“ความพิเศษของคลินิกนี้อยู่ตรงความคล่องตัว สมมตินักกีฬาคนหนึ่งมีอาการเอ็นหัวไหล่ฉีก ถ้าเป็นระบบเดิมอาจต้องนัดทำอัลตราซาวนด์ เพื่อวินิจฉัยนานกว่า 2 เดือนค่อยกลับมาฟังผล แล้วต้องส่งไปปรึกษาแพทย์เวชศาสตร์์ฟื้นฟูอีก 1 เดือน ทำกายภาพบำบัดอีก 3 เดือน แต่ตอนนี้ขั้นตอนจะสะดวกและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม เรียกว่า One Stop Service เลยก็ว่าได้ ผู้ป่วยที่ถูกส่งมาที่นี่จะสามารถพบแพทย์เฉพาะทางด้านต่าง ๆ ได้ภายในวันเดียว พูดง่าย ๆ ว่า เมื่อผู้ป่วยมาพบแพทย์ที่ห้องตรวจ จะได้รับการวินิจฉัยโดยการซักประวัติ ตรวจร่างกายและส่งตรวจวินิจฉัยที่เหมาะสมด้วยภาพถ่ายทางรังสีหรืออัลตราซาวนด์ในวันเดียวกัน จากนั้นทางทีมสหสาขาวิชาชีพจะหารือถึงแนวทางการรักษาที่เหมาะกับผู้ป่วยรายนั้น ๆ ให้มากที่สุุด เรียกได้ว่าเป็นแบบ tailor made เฉพาะสำหรับผู้ป่วยแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด การดูแล โดยแพทย์เวชศาสตร์์ฟื้นฟู หรือนักกายภาพบำบัด เนื่องจากเรามีความพร้อมด้านบุคลากรและเครื่องมือที่ห้องตรวจอยู่แล้ว”

รศ.(พิเศษ) นพ.ธนะเทพ บอกว่า “กีฬาเป็นกิจกรรมที่อยู่คู่กับเราตั้งแต่เด็กจนโต ไม่ว่าจะเล่นกีฬาเป็นงานอดิเรก เล่นเพื่อลงแข่งขัน หรือ เล่นในระดับอาชีพล้วนมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการบาดเจ็บเป็นธรรมดา เวชศาสตร์การกีฬาจึงมีความสำคัญมากในการช่วยรักษาฟื้นฟูนักกีฬาทุกระดับให้กลับไปเล่นได้อีกครั้ง”

นอกจากการรักษาอย่างต่อเนื่องแล้ว ขั้นตอนฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้กลับมาแข็งแรงก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไปด้วย พญ.ฑิมภ์พร วิทูรพงศ์ ฝ่ายเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า นักกีฬาอาชีพซึ่งถูกส่งตัวมารักษาที่คลินิกเวชศาสตร์การกีฬา สำหรับนักกีฬาอีลิท มีทั้งนักกีฬาที่มีอาการบาดเจ็บไม่รุุนแรง และที่มีอาการบาดเจ็บรุนแรงจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด

“สำหรับนักกีฬาที่มีอาการบาดเจ็บรุนแรงจนต้องเข้ารับการผ่าตัด เราจะออกแบบโปรแกรมการฟื้นฟูให้นักกีฬาทั้งก่อนและหลังผ่าตัด และดูแลจนกว่านักกีฬาจะกลับไปซ้อมและแข่งขันได้ด้วยความมั่นใจ โดยวางแผนการฟื้นฟู และโปรแกรมกายภาพแบบเร่งรัดและเข้มข้น เพื่อใหนักกีฬาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว สามารถกลับไปซ้อมร่วมกับทีมและกลับไปแข่งขันให้ทันช่วงฤดูกาลแข่งขัน สำหรับนักกีฬาที่บาดเจ็บแต่ไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด เราจะรีบรักษาความเจ็บปวดจากการบาดเจ็บต่าง ๆ โดยพิจารณาทำหัตถการทางการแพทย์ และ/หรือ เลือกใช้เครื่องมือ ทางกายภาพที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้การซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บเกิดการซ่อมแซมได้เร็วขึ้นให้โปรแกรมฟืนฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และการฝึกระบบประสาทกล้ามเนื้อแบบเร่งรัดและเข้มข้น และทั้งสองกลุ่มยังจำเป็นต้องได้รับการประเมินความพร้อมของการใช้งานก่อนกลับไปฝึกซ้อมกับทีมการจัดโปรแกรมฟื้นฟูแบบเข้มข้นและการประเมินความพร้อมก่อนกลับไปเล่นกีฬานั้น ก็เพื่อลดโอกาสการเกิดการบาดเจ็บซ้ำในอนาคต”

“การพิจารณาการรักษาและการออกแบบโปรแกรมฟื้นฟูขึ้นอยู่กับความสำคัญของการแข่งขันและระยะเวลาที่นักกีฬาจะต้องกลับไปแข่งขัน เช่น อีก 3 วันจะมีการแข่งขัน แต่นักกีฬายังคงมีอาการบาดเจ็บอยู่ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าการบาดเจ็บนั้นนักกีฬาสามารถลงแข่งขันได้หรือไม่ หากแพทย์มีความเห็นว่านักกีฬาอาจต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่า 3 วัน แต่โค้ชตัดสินใจให้นักกีฬาลงแข่งขัน และนักกีฬาจำเป็นต้องแข่งขัน แพทย์ต้องมาประเมินว่าจะออกแบบการรักษาอย่างไรให้กลับไปแข่งได้ทัน หรือการบาดเจ็บบางอย่างมีความเสี่ยงมากเกินไปสำหรับนักกีฬาหากจะต้องลงแข่งขัน แพทย์ก็จะให้ข้อมูลตามจริงแก่โค้ชและนักกีฬา หากนักกีฬาจำเป็นต้องลงแข่งขันจริง ๆ เราจะวางแผนการรักษา การทำกายภาพ และการใช้กายอุปกรณ์์ที่เหมาะสมระหว่างทัวร์นาเมนต์ เพื่อให้นักกีฬาสามารถแข่งขันได้อย่างดีที่สุด”

นอกจากความพร้อมของสภาพร่างกาย ความพร้อมของสภาพจิตใจก็สำคัญไม่แพ้กัน “บางคนอยากกลับไปแข่ง ร่างกายพร้อมแต่ใจไม่ได้ ยังรู้สึกแหยง กลัวเจ็บ ในขณะที่บางคนอยากกลับไปซ้อมกับเพื่อน ๆ ในทีม แต่การบาดเจ็บทำให้เขารู้สึกด้อยกว่าคนอื่นในทีม ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยนักกีฬาบาสเกตบอลทีมาตรวจติดตามการรักษาก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน เขาเล่าว่าเวลาเข้าซ้อมกับทีม เห็นเพื่อนวิ่งแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองวิ่งช้าไม่ทันเพื่อน รู้สึกด้อยกว่าเพื่อน พูดจบเขาก็ร้องไห้เลย ทั้งที่ความก้าวหน้าของการฟื้นตัว ดีขึ้นตามที่ทีมการรักษาคาดหวังและตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ นี่เป็นเรื่องของสภาวะความเครียดทางใจ เราจะต้องอาศัยเทคนิคของนักจิตบำบัด ช่วยให้นักกีฬาปรับวิธีคิด จัดการความรู้สึกและความเครียด เตรียมความพร้อมและสร้างความมั่นใจให้เขา”

สำหรับนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการรักษาฟื้นฟูผู้ป่วยกลุ่มนักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บนั้น พญ.ฑิมภ์พร มองว่า ปัจจุบันมีความก้าวหน้าขึ้น ตั้งแต่การใช้เครื่องอัลตราซาวนด์มาช่วยวินิจฉัยอาการบาดเจ็บได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว เทคนิคในการทำหัตถการและการใช้เครื่องมือ ทางกายภาพเพื่อเร่งการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ การใช้้เครื่องวัดสัญญาณกล้ามเนื้อมาใช้วัดสัญญาณขณะออกกำลังกาย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยใช้กล้ามเนื้อได้ถูกต้อง เทคนิคการกายภาพและการออกกำลังเพื่อแก้ไขการเคลื่อนไหว รวมถึงการดัดแปลงอุปกรณ์ออกกำลังกายต่าง ๆ มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการทำกายภาพบำบัด

“เหตุุการณ์ที่ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจที่สุุดคือ ตอนไปช่วยฟื้นฟูอาการปวดหลังให้นักกีฬากอล์ฟตีไกล เราแนะนำเขาให้ปรับการใช้กล้ามเนื้อ ทำให้นอกจากหายปวดหลังแล้วยังตีได้ไกลขึ้นด้วย แต่นักกีฬาก็ยังมีปัญหาว่า ตีได้ไกล แต่มีอาการใหม่คือ เจ็บกล้ามเนื้อในมือแทน เราก็ช่วยออกแบบโปรแกรมช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในฝ่ามือ ทีนี้พอหายก็แฮปปี้เลย สามารถเข้าร่วมการแข่งตีไกลชิงแชมป์โลกได้อย่างมั่นใจ ในฐานะแพทย์ที่อยู่ เบื้องหลังความสำเร็จนี้ เราก็รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่มีส่วนช่วยให้เขากลับไปใช้ชีวิตอย่างที่เขาต้องการได้”

สาเหตุอันดับต้น ๆ ของการบาดเจ็บทางร่างกายในหมู่นักกีฬาอาชีพ หรือ แม้แต่คนทั่วไปที่ชอบเล่นกีฬาและออกกำลังกาย ไม่ใช่อุบัติเหตุจากการปะทะเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการหักโหมใช้กำลังมากเกินไปจนเกินขีดจำกัดของตัวเอง

พว.ดวงพร ดำรงเกียรติสกุล หัวหน้าหอผู้ป่วย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ในฐานะหัวหน้าทีมพยาบาลผู้ดูแลนักกีฬาอาชีพที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า เวลานักกีฬาอาชีพได้รับบาเจ็บมักมีอาการรุนแรงและต้องเข้ารับการรักษานานกว่าคนทั่วไป อาจใช้เวลานานหลายดือน หรือนานเป็นปี

“การเล่นกีฬาสำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้เป็นนักกีฬาอาชีพควรดูแลร่างกายอย่างเหมาะสมขณะเล่นกีฬา ไม่ควรเล่นหนักเกินไปหรือ ไม่ได้ป้องกันร่างกาย เพราะอาจส่งผลให้้เกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ ส่วนนักกีฬาอาชีพที่ใช้ร่างกายอย่างหนักยิ่งจำเป็นต้้องระมัดระวังและปกป้องร่างกายให้มาก เนื่องจากการบาดเจ็บอาจส่งผลให้ต้องพักรักษาตัวและใช้เวลานานในการฟื้นฟูร่างกายเพื่อกลับมาเล่นกีฬาอาชีพ ได”้

พญ.ฑิมภ์พร แนะนำว่า การออกกำลังกายหรือเล่่นกีฬาชนิิดใดก็ตาม ถ้ามากเกินไปก็ไม่ดี อาจเกิดภาวะ over training ซึ่งจะส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว

“เมื่อไหร่ที่รูสึกว่าร่างกายมันไม่ไหว ล้า หรือมีอาการบาดเจ็บ ก็ควรกลับมาทบทวนว่าเราออกกำลังกายมากเกินไปไหม พักผ่อนเพียงพอไหม ให้เวลาร่างกายฟืนตัวเพียงพอแล้วหรือยัง ส่วนใหญ่มักคิดว่าตัวเองไหว ใจมันได้เลยไปต่อ แต่จริง ๆ ใจได้แต่่ถ้ากายม่่ไหวก็ไม่โอเคนะ แทนที่การเล่นกีฬาจะเป็น
ยาวิเศษอาจกลายเป็นยาพิษก็ได้้”

ขณะที่ รศ.(พิเศษ) นพ.ธนะเทพ ทิ้งท้ายว่า รู้สึกยินดีมากที่เห็นคนไทยหันมาออกกำลังกายรืือ เล่นกีฬาเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ยั่งยืน แต่ต้องไม่ลืมว่าการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาเป็นสิ่งที่มาคู่กัน
“เราเป็นทีมที่ดูแลเรื่องนักกีฬาอาชีพ ใครก็ตามที่มีปัญหาบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา หรือรู้สึกร่างกายผิดปกติจากการเล่นกีฬา เรายินดีดูแลให้คำปรึกษา เราอยากขยายการห้้บริการไปถึงกลุ่ม คนทั่วไปด้วย โดยเฉพาะคนที่บาดเจ็บจากการเล่นกีฬาแล้วอยากกลับไปเล่นได้เหมือนเดิม หรือคนที่ใช้ร่างกาย
ในการประกอบอาชีพ เช่น นักเต้น นักดนตรี ก็สามารถเข้ามารับการักษาได้”

บทความที่เกี่ยวข้อง

Impella

เครื่อง Impella เป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อประโยชน์ของประชาชน และสร้างระบบสาธารณสุขไทยที่แข็งแรงและทันสมัยยิ่งขึ้นในอนาคต

IF สร้างสุขภาพดีด้วย การจำกัด เวลากินอดอาหารอย่างมีแบบแผน

9 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับคลินิกฝังเข็ม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

การฝังเข็มเป็นการให้บริการแพทย์ทางเลือกแก่ผู้ป่วยที่เหมาะสม ส่วนใหญ่เป็นโรคเรื้อรังและได้รับการรักษามาจากที่อื่นแล้วไม่ดีขึ้น หรือต้องการการรักษาร่วมกัน การฝังเข็มจึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยที่จะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น

ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์