
ถึงแม้อารมณ์เศร้าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับเราได้ทุกเมื่อยามพบเจอสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจและความรู้สึก แต่ในบางคนความเศร้ามีเหตุปัจจัยมาจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสมองหรือร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นสื่อประสาทในสมองทำงานผิดปกติจนเสียสมดุลทางอารมณ์ และการอักเสบที่เกิดขึ้นกับร่างกายซึ่งส่งผลต่อจิตใจ ทำให้รู้สึกเศร้ารุนแรงและเรื้อรังนาน โดยมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่นมีปัญหาเกี่ยวกับการนอน การกิ นมีปัญหาเรื่องสมาธิ ความจำมีปัญหาเรื่องความรู้สึกผิด และอาจส่งผลร้ายถึงขั้นรู้สึกว่า ไม่อยากมีชีวิติอยู่ โรคนี้สามารถเกิดขึ้น ได้ทั้งในกลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน และอีกกลุ่มที่น่าเป็นห่วงคือผู้สูงวัย เกี่ยวกับเรื่องนี้ อ.ดร.นพ.ชาวิท ตันวีระชัยสกุล จิตแพทย์ผู้สูงอายุ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า จากสถิติ 1-5% ของผู้สูงอายุทั่วไปมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้า และแน่นอนว่าเมื่อเข้าสู่สังคมสูงวัย จำนวนผู้สูงอายุที่่มีภาวะซึมเศร้าก็ย่อมเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

ยิ่งสูงวัยปัจจัยเสี่ยงยิ่งมาก
คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุทุกคนย่อมต้องเผชิญกับความเสื่อมและหายไปของบางสิ่งบางอย่าง ทั้งการเกษียณจากงานและเริ่มหมดไฟความเสื่อมถอยของสุุขภาพร่างกาย อาการเจ็บป่วยจากโรคต่าง ๆ สังคมรอบตัวก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป เหล่านี้คือปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลให้ผู้สููงวัยมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้า ทว่าปัจจัยหลักๆ คือ
- ความเสื่อมของร่างกายและอาการเจ็บป่วย :
ยิ่งอายุมากขึ้นความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆ ก็มากขึ้น และหลายโรคก็นำมาซึ่งความเจ็บปวดทรมาน เช่น โรคหลอดเลือดแตก ตีบตัน โรคสมองเสื่อม โรคพาร์กินสัน โรคมะเร็ง โรคข้อ ฯลฯ การเป็นโรคเหล่านี้ไม่เพียงทำให้ดูแลตัวเองได้น้อยลงจนส่งผล ให้จิตใจย่ำแย่ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการซึมเศร้า ทำให้ผู้สูงวัยที่ป่วยด้วยโรคเหล่านี้มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าเยอะขึ้น - ความโดดเดี่ยว เครียด กังวล :
เมื่่อเวลาในชีวิติผ่านไปเรื่อยๆ ผู้คนรอบตัวก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ เช่นกัน อาจจะเพื่อนน้อยลงเพราะเกษียณจากงานที่ทำ คู่ครองเสียชีวิต ลูกหลานแยกบ้าน ฯลฯ ทำให้ผู้สูงวัยจำนวนมากต้องอยู่คนเดียวขาดการสนับสนุนทางสังคม จนเกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว เครียด เหงา ไม่มีคุณค่า และไร้จุดหมาย บางคนอาจรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรได้น้อยลง เป็นภาระของลูกหลาน จนรู้สึกไม่ดีและทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ - เคยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน :
หากเคยเป็นโรคซึมเศร้าในช่วงวัยรุ่น หรือวัยทำงานมาก่อน ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุจะยิ่งสูงขึ้น
สัญญาณเตือนผู้ใหญ่ในบ้านอาจมีอาการซึมเศร้า
อาการของโรคซึมเศร้าในผู้สูงวัยไม่ต่างจากโรคซึมเศร้าที่เกิดกับวัยอื่น สังเกตได้จากอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่สนใจสิ่งรอบตัว ปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นน้อยลง แยกตัวออกจากสังคม หลับยาก เบื่ออาหาร สมาธิสั้น ทำอะไรช้า ฯลฯ นอกจากนี้ยังอาจมีอารมณ์หงุดหงิดง่ายขึ้น ไม่อยากทำอะไร แม้แต่สิ่งที่เคยชอบก็ไม่อยากทำ บางคนอาจถึงขั้นรู้สึกว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ จนอยากทำร้ายตัวเอง อ.ดร.นพ.ชาวิท แนะนำว่า หากสังเกตสัญญาณเตือนให้ดีจะรู้ได้ว่าผู้ใหญ่ในบ้านมีอาการซึมเศร้าหรือไม่ “แม้ว่า ผู้สูงอายุจะทำกิจกรรมน้อยจนดูออกยากว่าเศร้าหรืออารมณ์ดี แต่คนไข้หรือญาติจะสังเกตเห็นได้จากอารมณ์หงุดหงิดที่มากขึ้นหรือการแยกตัวออกจากสังคม และในรายที่มีอาการเจ็บป่วยทางร่างกายอยู่แล้ว เช่น เข่าเสื่อมอยู่เดิม กระดูกสันหลังเสื่อมอยู่เดิม ปวดเข่าปวดหลััอยู่บ้าง หากอารมณ์แย่ลงจะทำให้อาการปวดมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้สังเกตได้ว่าน่าจะเป็นโรคซึมเศร้า” ดังนั้นเมื่อสังเกตพบอาการเหล่านี้ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพื่อป้องกันผลกระทบร้ายแรงที่อาจตามมา

4 Steps รักษาทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม
ผู้สูงอายุคือกลุ่มเปราะบาง สุขภาพไม่สมบูรณ์แข็งแรงเหมือนวัยอื่น การรักษาโรคซึมเศร้าในวัยนี้ จึงค่อนข้างมีความซับซ้อน เพราะต้องคำนึงถึงความพร้อมของสภาพร่างกายร่วมด้วย การรักษาโดยทั่วไปมีขั้นตอนดังนี้
Step 1
เมื่อตัวผู้สูงอายุเองหรือคนรอบข้างสังเกตว่าอารมณ์เปลี่ยนไป ไม่มีความสุข จะนำไปสู่การสืบค้นว่าอาการต่างๆ เหล่านั้นคืออาการของโรคซึมเศร้าหรือไม่
Step 2
เมื่อพบว่าอาการนั้นเกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้า ต้องพิจารณาต่อว่าคนไข้มีความเสี่ยงร่วมกับโรคอื่น หรือมีปัจจัยทางสังคมที่อาจส่งผลต่ออาการของโรคซึมเศร้าหรือไม่ เพื่อทำการรักษา
เยียวยาไปพร้อมกัน เช่น หากมีอาการข้อเสื่อม ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้น อาจกระทบต่ออารมณ์ความรู้สึกจนนำไปสู่อาการซึมเศร้าได้จึงต้องรักษาควบคู่่กัน หรือกรณีที่อยู่คนเดียว ความรู้สึกเหงาโดดเดี่ยวคือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เป็นโรคซึมเศร้า หากไม่แก้
ปัญหาเหล่านี้ การรักษาให้หายขาดก็อาจทำได้ยาก
Step 3
จากนั้นควรตรวจร่างกายเพิ่มเติมอย่างละเอียด เพื่อดูว่ามีปั ญหาทางด้านสุขภาพอื่นๆ ซ่อนอยู่อีกหรือไม่ เพราะอาจมีปัจจัยที่ส่งผลต่ออารมณ์อย่างไทรอยด์ที่ผิดปกติ หรือภาวะอื่น ๆ ร่วมด้วยก็เป็นได้
Step 4
ตรวจวินิจฉัยว่าคนไข้เป็นโรคซึมเศร้าระดัับไหน คนไข้ที่มีอาการไม่มากสามารถเลือกได้ระหว่างการทำจิตบำบัดหรือการใช้ยา หรือจะรักษา
แบบผสมผสานควบคู่กันก็ได้เช่นกัน แต่หากอยู่ในระดับปานกลางถึงมาก มีอาการทางจิตเวชร่วมด้วย หรือมี
ความคิดฆ่าตัวตายชัดเจนต้องรักษาด้วยการให้ยาร่วมกับการแก้ปัญหาอื่น ๆ อย่างเร่งด่วน
ไม่เพียงกระทบต่อสุขภาพยังเสี่ยงต่อการสูญเสีย
ผลกระทบของโรคซึมเศร้าจะทำให้สุขภาพแย่ลง และเมื่อเป็นโรคอื่นร่วมด้วยอาการของโรคก็จะยิ่่งทรุดหนัก ทั้งนี้สุขภาพที่ แย่และอาการของโรคอื่นที่หนักขึ้น จะส่งผลให้อาการซึมเศร้ารุนแรงมากขึ้นวนเป็นวัฏจักรที่น่าเป็นห่วงคือคนไข้ที่มีอาการซึมเศร้าในระดับสูงมีความเสี่ยงที่จะทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย จากการศึกษาวิจัย และสถิติที่ผ่า่นมาพบว่า ความสำเร็จในการฆ่าตัวตายของผู้สูงวัยที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มีมากกว่าผู้ป่วยในวัยอื่นๆ อย่างชัดเจน ฉะนั้นหากพบความผิดปกติต้องรีบเข้ารับการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้
รับฟังอย่างใส่ใจเสริมเกราะป้องกันให้ห่างไกลซึมเศร้า
หากสงสัยว่าผู้ใหญ่หรือผู้สูงวัยในบ้านเข้าข่ายโรคซึมเศร้า คนรอบข้างควรใส่ใจพูดคุยซักถามและเป็นผู้ฟังที่ดี เปิดโอกาสให้ท่านได้เล่าโดยไม่ตัดสินหรือสร้างแรงกดดันดูแลสุขภาพกายและใจของท่านให้แข็งแรง รักษาสายสัมพันธ์อันอบอุ่นไว้ให้ท่านรู้สึกได้ถึงความรักความห่วงใย และถ้าหากพบว่ามีอารมณ์เปลี่ยนแปลงไปรวมถึงมีพฤติกรรมน่าสงสัย เริ่มตีตัวออกห่างจากคนในครอบครัวมากขึ้นเรื่อยๆ หรือสนใจทำกิจกรรมที่เคยชอบลดลง สามารถพามารับการตรวจวินิจฉัยได้ที่คลินิกจิตเวชทั่วไป หรือคลินิกจิตเวชผู้สูงอายุ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ข้อมูลโดย :

อ.ดร.นพ.ชาวิท ตันวีระชัยสกุล
จิตแพทย์ผู้สูงอายุ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และศูนย์ดูแลภาวะสมองเสื่อม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย