Search
Close this search box.

นวัตกรรมการรักษาเนื้องอกต่อมไร้ท่อตับอ่อนที่ผลิตอินซูลินแบบไม่มีแผลหน้าท้อง

  • ส่องกล้องติดอัลตราซาวนด์ใส่เข้าทางปากผ่านกระเพาะอาหาร
  • ใช้เข็มขนาดเล็กเจาะทะลุผนังกระเพาะอาหารและลำไส้
  • ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ Radiofrequency Ablation (RFA)
    ผลิตคลื่นความร้อนจี้ทำลายเนื้องอก
  • ไม่มีแผลผ่าตัดที่หน้าท้อง ไม่มีความเจ็บปวด นอนโรงพยาบาลแค่ 1 วันก็กลับบ้านได้
  • อัตราเกิดภาวะแทรกซ้อนต่ำเพียงร้อยละ 1-3
  • ใช้เวลาในการส่องกล้องจีทำลายเนื้องอกไม่เกิน 1 ชั่วโมง

EUS ก่อนทำ

ตอนจี้

หลังจี้


ส่องกล้องใช้คลื่น RFA

จี้ทำลายเนื้องอกตับอ่อน


การรักษาเนื้องอกต่อมไร้ท่อตับอ่อนที่ผลิตอินซูลินโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่มีแผลหน้าท้อง ด้วยการส่องกล้องเข้าทางปากแล้วใช้คลื่นวิทยุให้กำเนิดความร้อนจี้ทำลายเนื้องอก เป็นการรักษารูปแบบใหม่ที่พัฒนาขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สามารถรักษาเนื้องอกได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ผู้ป่วยจึงไม่มีบาดแผล ไม่เจ็บปวด ไม่ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานหลายวันเหมือนการผ่าตัดรักษาแบบเดิม ภาวะแทรกซ้อนต่ำ และอัตราการกลับมาเป็นซ้ำต่ำ โดยนวัตกรรมนี้เป็นเทคโนโลยี การรักษารูปแบบใหม่ที่มีการศึกษาและพัฒนาขึ้นในต่างประเทศ และ รศ.นพ.ประเดิมชัย คงคำ หัวหน้าศูนย์ส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร ฝ่่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้นำมาพัฒนาต่อยอดเพื่อใช้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โอกาสนี้อาจารย์จะมาเล่าให้ฟังถึงวิธีการรักษา และผลดีที่เกิดขึ้นกับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย

การรักษาโดยใช้กล้องส่องทางเดินอาหารที่พัฒนาติดเครื่องมืออัลตราซาวนด์ไว้ที่ส่วนปลาย ทำให้แพทย์มองเห็นตำแหน่งอวัยวะต่างๆ อย่างชัดเจน เครื่องมือจะถูกสอดเข้าทางปากผ่านกระเพาะอาหาร จากนั้นใช้เข็มขนาดเล็กเจาะผ่านผนังกระเพาะอาหารตรงจุดที่อยู่ติดกับตับอ่อน แล้วใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ Radiofrequency Ablation (RFA) ผลิตคลื่นความร้อนจี้ทำลายเนื้องอกของตับอ่อน วิธีนี้ต่างกับการรักษาแบบเดิมที่เป็นการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง หรือผ่าตัดแบบส่องกล้องที่ต้องเจาะรูผ่านหน้าท้อง ซึ่งต้องผ่าตัดจากหน้าท้องผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้เพื่อเข้าไปถึงตับอ่อนที่อยู่ลึกในร่างกายติดกับกระดูกสันหลัง การผ่าตัดแบบเดิมจึงทำให้ผู้ป่วยมีบาดแผล และมีอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดมากกว่า รศ.นพ.ประเดิมชัยเล่าถึงขั้นตอนวิธีการรักษาว่า

“การผ่าตัดรักษาตับอ่อนโดยผ่าตัดจากหน้าท้องเป็นเรื่องยาก เพราะต้องเปิดหน้าท้องแหวกกระเพาะและลำไส้ไปทางด้านหลังของท้อง แล้วตับอ่อนเป็นอวัยวะเล็กนิดเดียว ลักษณะนิ่มมากคล้ายเต้าหู้ การผ่าตัดทำได้ยาก ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่พอเราใช้กล้องส่องทางเดินอาหารติดกล้องอัลตราซาวนด์ใส่เข้าทางปากผ่านไปที่กระเพาะอาหาร ปลายกล้องเราจะไปติดอยู่ที่ตับอ่อนเลย มีแค่่ผนังบางๆ ของกระเพาะอาหารกับลำไส้เล็กเท่านั้นที่กั้นไว้ แล้วพอใช้อัลตราซาวนด์ก็มองเห็นตับอ่อนได้ชัดเจน จากนั้นก็ใช้เข็มเล็กๆ แทงผ่านเข้าไปที่เนื้องอกตับอ่อน แล้วใช้คลื่นวิทยุ RFA กำเนิดให้มีความร้อนจี้ทำลายตัวเนื้องอกตับอ่อน ปรากฏว่่าให้ผลการรักษาได้ดีเท่ากับการผ่าตัด เดิมถ้าทำผ่าตัดส่วนใหญ่ใช้เวลา 6-8 ชั่วโมง อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนมีประมาณร้อยละ 10 แต่ถ้าใช้วิธีส่องกล้องไปจี้ทำลายตัวเนื้องอกที่ตับอ่อนใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมง อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนลดลงเหลือแค่ร้อยละ 1-3 เท่านั้น”

การรักษาด้วยวิธีนี้ เริ่มใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ตรวจพบเนื้องอกต่อมไร้ท่อตับอ่อนที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน เนื้องอกจะทำให้อินซูลินถูกผลิตออกมามากเกินไป โดยที่ฮอร์โมนดังกล่าวทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ต่ำลง ดังนั้นผู้ป่วยจึงต้องทุกข์ทรมานจากอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ ได้แก่ อาการหน้ามืด ใจสั่น วิงเวียน จนอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต เนื้องอกส่วนใหญ่เป็นชนิดเนื้อดีไม่ใช่มะเร็ง โอกาสการกำเริบหรือกลับมาเป็นซ้ำได้น้อยมาก ฉะนั้นการรักษาด้วยวิธีการส่องกล้องเข้าทางปากแล้วใช้คลื่นวิทยุให้กำเนิดความร้อนจี้ทำลายเนื้องอกซึ่งสามารถทำลายเนื้องอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การบาดเจ็บต่อวัยวะข้างเคียงต่ำ น่าจะเป็นอีกทางเลือกแทนการรักษาหลักคือการผ่าตัดผ่าหน้าท้องได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยได้ใช้วิธีนี้ ทำการรักษาผู้ป่วยเนื้องอกต่อมไร้ท่อตับอ่อนที่ผลิตอินซูลินแล้วทั้งหมด 3 ราย ผล การรักษาออกมาประสบความสำเร็จอย่างดี

“ เทคโนโลยีดังกล่าวนี้เริ่มทำมาทั่วโลกประมาณ 3-5 ปี แต่จำนวนไม่มากนัก สำหรับโรงพยาบาลจุฬาฯ น่าจะเป็นแห่่งแรกในประเทศไทยที่ทำเรื่องนี้ ผู้ป่วย 2 รายแรกทำเมื่อ 3 ปี ที่แล้วประสบความสำเร็จด้วยดี ติดตามมาจนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีการกลับเป็นซ้ำ ส่วนรายที่ 3 เราทำเมื่อปี 2566 และเมื่อ 1 เดือนที่แล้วได้นัดคนไข้มาติดตาม คนไข้สบายดี ระดับน้ำตาลก็ขึ้นมาปกติ การรักษาด้วยวิธีนี้ มีแค่รูเข็มเล็กๆ เจาะที่กระเพาะอาหาร พอฟืนขึ้นมาคนไข้ไมเ่จ็บปวดอะไรเลย หมอจะให้นอนโรงพยาบาลแค่ 1 คืนเพื่อติดตามระดับน้ำตาลในเลือด พอวันรุ่งขึ้นก็กลับบ้านหรือกลับไปทำงานได้เลย แต่หากเป็นการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง หรือเจาะรูหน้าท้องอาจต้องนอนโรงพยาบาล 5-7 วัน ”

นวัตกรรมการรักษารูปแบบนี้ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทันที ระดับน้ำตาลในเลือดกลับมาเป็นปกติหลังจากเนื้องอกถูกกำจัดออกไป ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ จากการผ่าตัดแบบเดิมผู้ป่วยไม่มีบาดแผลและไม่มีความเจ็บปวดใดๆ สามารถกลับไปทำงานตามปกติในวันรุ่งขึ้นได้ทันที


ข้้อมููลโดย :

รศ.นพ.ประเดิม ชัยคงคำ
ผู้ช่วยผู้อำนวยการฯ ด้านบริการผู้ป่วยในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ผศ.นพ.ธิติ สนับบุญ
อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านเบาหวาน ฮอร์โมนและเมตะบอลิสม ฝ่่ายอายุุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

บทความที่เกี่ยวข้อง

คลินิกเวชศาสตร์การกีฬาสำหรับนักกีฬาอีลิท

จุดเด่นของคลินิกเวชศาสตร์การกีฬาสำหรับนักกีฬาอีลิทอยู่ตรงการรวมตัวกันของคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากสาขาต่าง ๆ พยาบาล ทีมสหสาขาวิชาชีพ

Impella

เครื่อง Impella เป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อประโยชน์ของประชาชน และสร้างระบบสาธารณสุขไทยที่แข็งแรงและทันสมัยยิ่งขึ้นในอนาคต

IF สร้างสุขภาพดีด้วย การจำกัด เวลากินอดอาหารอย่างมีแบบแผน

ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์