โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

Search
Close this search box.

การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยการนอนคว่ำ ช่วยทำให้อาการดีขึ้นได้อย่างไร ?

นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 มีข้อมูลข่าวสารที่ถูกส่งต่อผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์อย่างมากเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ด้วยการนอนคว่ำ ซึ่งแท้จริงแล้วการรักษาในรูปแบบนี้เป็นวิธีการใหม่หรือไม่? และเพราะเหตุใดจึงต้องให้ผู้ป่วยนอนในลักษณะนี้ ผศ.(พิเศษ)พญ.ณับผลิกา กองพลพรหม แพทย์สาขาอายุรศาสตร์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤต ฝ่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จะมาให้ข้อมูลที่น่าสนใจแก่ผู้อ่าน

ผศ.(พิเศษ)พญ.ณับผลิกา อธิบายถึงการรักษาผู้ป่วยด้วยการให้นอนคว่ำว่าเป็นวิธีที่ใช้แพร่หลายทางการแพทย์มากว่า 20 ปีแล้ว โดยใช้ในผู้ป่วยกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน หรือ ARDS (Acute Respiratory Distress Syndrome) เช่น
ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบหรือโรคไข้หวัดใหญ่ ไม่ใช่วิธีการรักษาแบบใหม่ แต่การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรักษาด้วยการนอนคว่ำมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ เนื่องจากโรคโควิด-19 เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจโดยตรงทั้งนี้ ได้มีการจำแนกผู้ป่วยออกเป็น 2 ระยะ คือ

1 ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ยังสามารถหายใจได้ด้วยตนเอง ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีภาวะออกซิเจนต่ำ มีการใช้ออกซิเจนในอัตราไหลสูง หรือการใช้เครื่องช่วยหายใจที่ยังไม่ถึงขั้นต้องใส่ท่อช่วยหายใจ แพทย์จะทำการรักษาโดยให้ผู้ป่วยนอนคว􀄞่ำหน้า ซึ่งเรียกว่าท่า Awakening Prone เป็นเวลา 30 นาที – 2 ชั่วโมง และสังเกตการตอบสนองของผู้ป่วย จากนั้นให้ผู้ป่วยพลิกตัวเปลี่ยนท่าตะแคงซ้ายหรือขวา หรือนอนยกศีรษะขึ้นสูงเพื่อป้องกันแผลกดทับ การที่ผู้ป่วยโรคโควิด-19 นอนคว่ำแล้วอาการดีขึ้น เนื่องจากพยาธิสภาพในปอดของผู้ป่วยโรคโควิด-19 จะอยู่ที่ปอดบริเวณด้านข้าง (Periphery) และด้านหลังเป็นส่วนใหญ่
ประโยชน์ต่อผู้ป่วย :
• เนื้อปอดส่วนหลังที่ถูกหัวใจกดทับขยายได้ดีขึ้น
• ความยืดหยุ่นของปอดหรือการขยายตัวของถุงลมปอดแต่ละส่วนดีกว่า
การนอนหงาย
• การแลกเปลี่ยนแก๊สของปอดดีขึ้น
• การระบายเสมหะดีขึ้น

2ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีภาวะหายใจล้มเหลวเป็นผู้ป่วยกลุ่มที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจระดับสูง หรือหากปรับเครื่องช่วยหายใจด้วยวิธีมาตรฐานแล้ว ผู้ป่วยยังไม่มีการตอบสนองที่ดีก็จำเป็นต้องให้ผู้ป่วยนอนคว่ำ รวมถึงต้องให้ยาระงับความรู้สึกตัว (Sedatives) เพื่อให้ผู้ป่วยนอนหลับลึกและนอนได้เป็นระยะเวลานาน เนื่องจากการรักษาจะได้ผลก็ต่อเมื่อผู้ป่วยนอนคว􀄞่ำเป็นเวลาอย่างน้อย 16 ชั่วโมง
ประโยชน์ต่อผู้ป่วย :
• ช่วยลดการบาดเจ็บหรืออักเสบของปอดจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ
• ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนแก๊สของปอดตามกลไกเดียวกันกับ
Awakening Prone
• เป็นการรักษาเพื่อประคับประคองรอให้ปอดฟื้นตัวดีขึ้นจากการรักษาเฉพาะ

คำถามน่ารู้เกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยกลุ่ม ARDS ด้วยการนอนคว่ำ

  1. การนอนคว่ำช่วยป้องกันการติดโรคโควิด-19 ได้จริงหรือไม่ ?
    ตอบ ไม่จริง การนอนคว่ำไม่ได้เป็นการป้องกันโรคแต่อย่างใด แม้แต่ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ก็ตาม การนอนคว่ำเป็นเพียงการรักษาแบบประคับประคองเท่านั้นไม่ใช่การรักษาให้หายขาดแต่อย่างใด
  2. การรักษาผู้ป่วยกลุ่ม ARDS ด้วยการนอนคว่ำมีขั้นตอนดูแลผู้ป่วยอย่างไรให้ปลอดภัย ?
    ตอบ การพลิกตัวผู้ป่วยให้นอนคว่ำแต่ละรายจะใช้เจ้าหน้าที่อย่างน้อย 5 คน ในการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ เช่น การพลิกตัว การตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ให้เรียบร้อยรวมถึงตรวจสอบความดันโลหิตและสัญญาณชีพของผู้ป่วยให้คงที่ หลังจากจัดให้ผู้ป่วยนอนคว่ำแล้ว เจ้าหน้าที่จะประเมินการตอบสนองของผู้ป่วยภายใน 30 นาที – 1 ชั่วโมง หากมีการตอบสนองที่ดีขึ้น จึงจะจัดให้ผู้ป่วยนอนคว่ำต่อเนื่องเป็นเวลา 16 ชั่วโมง แล้วสลับให้นอนหงาย 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ และประเมินอีกครั้งว่าจำเป็นต้องนอนคว่ำต่ออีกหรือไม่
  3. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เตรียมความพร้อมบุคลากรในการดูแลผู้ป่วยกลุ่ม ARDS อย่างไรบ้าง ?
    ตอบ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เตรียมความพร้อมทั้งในด้านการฝึกอบรมก่อนปฏิบัติงานคือ บุคลากรทุกคนต้องท􀄞ำการซักซ้อมร่วมกันเป็นทีม ฝึกปฏิบัติเสมือนจริงกับหุ่นช่วยฝึก ทบทวนบทบาทหน้าที่ การส่งสัญญาณกันเพื่อดูแลผู้ป่วยให้ปลอดภัยที่สุดขณะพลิกตัวขณะเดียวกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อ บุคลากรทุกคนต้องสวมใส่ชุดป้องกันแบบ PAPR หรืออย่างน้อยต้องสวมอุปกรณ์ PPE หน้ากาก N95 และหน้ากาก Face Shield เพื่อป้องกันการกระจายตัวของเชื้อไวรัสทางอากาศที่เกิดขึ้ระหว่างการพลิกตัวผู้ป่วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

รักษาโรคมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน

วิธีการรักษาโรคมะเร็งด้วยรังสี ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะยกระดับมาสู่ "เครื่องเร่งอนุภาคโปรตอน"

5 โรคติดเชื้อในเด็กที่ควรระวังในฤดูหนาว

โรคติดเชื้อในเด็กในช่วงฤดูหนาวมี 3 กลุ่มโรคและ 5 โรคสำคัญคือ โรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจได้แก่ โควิด-19 (COVID-19) โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคติดเชื้ออาร์เอสวี (RSV) โรคติดเชื้อของระบบทางเดินอาหารได้แก่ โรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า และโรคไข้ออกผื่นได้แก่ โรคอีสุกอีใส

รู้จักมะเร็งในช่องปาก

ปัจจัยเสี่ยงใดบ้างที่ทำให้เกิดโรค มะเร็งช่องปาก รวมถึงวิธีการรักษาและการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง

ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์